 
                                    
                                เรามาทราบประวัติคร่าวๆของน้องแมวลีโอกันค่ะ   
ลีโอเป็นแมวชอบเที่ยวนอกบ้าน ประวัติวัคซีนไม่ครบ  ชอบไปต่อสู้กับแมวนอกบ้านและได้รับแผลกลับบ้านมาทุกที จากการตรวจเลือดโดยใช้ชุดตรวจพบว่า น้องลีโอมีภูมิต้านทานต่อเอดส์แมว นั้นหมายความว่ามีการสัมผัสเชื้อเอดส์แมวมา (FIV +ve Ab) และพบว่ามีเชื้อลิวคีเมียในร่ายกาย (FeLV +ve Ag)  
 
จากผลการตรวจเลือด พบค่าเม็ดเลือดแดง 13.2%  เม็ดเลือดขาวอยู่ที่ 14,300 เกล็ดเลือด 261,000 ซึ่งถือว่าภาวะโลหิตจางรุนแรง 
โรคลิวคีเมียในแมว เกิดจากเชื้อ Feline leukemia virus ซึ่งแมวที่ติดเชื้อ อาจจะแสดงอาการหรือไม่แสดงอาการป่วย  แต่เมื่อแสดงอาการป่วยแล้ว เกิดเนื่องภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน หรือไวรัสเอง เข้าไปเปลี่ยน DNA ในเซลล์ทำให้เกิดเนื้องอกได้ 
 
• ผ่านทางน้ำลายทางบาดแผลที่ถูกกัด  รองลงมาคือปัสสาวะ และอุจจาระของแมวที่มีเชื้อไวรัส   
• การติดต่อโรคระหว่างแมวนั้นจำเป็นต้องอาศัยการสัมผัสใกล้ชิดระยะเวลานาน   
• ติดได้ง่ายจากการใช้ภาชนะ กินอาหารและน้ำร่วมกัน การเลียตัวกัน หรือกัดกัน    
• ยังพบการติดต่อผ่านจากแม่ไปสู่ลูกผ่านทางรก  
• โรคจากภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้เกิดการติดเชื้ออื่นๆได้ง่ายขึ้น เช่น โรคทางเดินอาหาร  โรคพยาธิเม็ดเลือด   
• โรคจากภาวะโลหิตจาง   ทำให้ป่วยได้รุนแรงน้อย ไปจนถึงทำให้แมวตายด้วยภาวะเลือดจางรุนแรง 
• โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง   
• โรคในกลุ่มเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันตัวเองและอื่นๆ เช่น  ลำไส้เกิดการอักเสบ ไตอักเสบ เกิดความผิดปกติกับโรคตา
สำหรับแมวที่แสดงอาการป่วย..... 
รักษาขึ้นอยู่กับอาการ เช่น ได้รับยาเพื่อปรับสภาพภูมิคุ้มกัน  หากเกิดภาวะโลหิตจางอย่างรุนแรงต้องทำการถ่ายเลือด  หรืออาจต้องได้รับยาต้านไวรัส  ในรายที่มีเนื้องอกจากลิวคีเมียอจาต้องใช้เคมีบำบัดร่วมด้วย สำหรับในรายของน้องลีโอ เกิดภาวะโลหิตจางรุนแรงจึงทำการถ่ายเลือด และรักษาพยาธิในเม็ดเลือด ควบคู่กับกับการให้ยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน  
 
สำหรับแมวที่มีการติดเชื้อในร่างกายแล้วแต่ยังไม่แสดงอาการของโรค ....  
และควรแยกแมวออกจากตัวอื่นๆในบ้าน ควรตรวจร่างกายเพิ่มเติมเพื่อหาโรคที่จะแทรกซ้อนได้ เช่น ตรวจหาพยาธิในเม็ดเลือด  ตรวจดูค่าตับ และไต ตรวจปัสสาวะ หรือตรวจหาไข่พยาธิ   ถ่ายพยาธิและป้องกันเห็บหมัดเป็นประจำ  และควรฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคอื่นๆ   ไม่ควรให้ออกนอกบ้าน เพื่อลดทั้งโอกาสการติดเชื้อโรคอื่นๆ  และป้องกันการแพร่ไวรัสให้แมวอื่นๆด้วย 
 
ควรทำการตรวจคัดกรองแมวที่เป็นพาหะของโรค  คือติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ และป้องกันด้วยการฉีดวัคซีน 
 
 
 
ที่มา พรรณจิตต์(2554).  โรคติดเชื้อที่สำคัญในแมว  . คณะสัตวแพทย์  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.86-101. 
 
 
เรียบเรียงโดย สพ.ญ. จุฑารัตน์ บารมี  
 
 
                                     
                             
                             
                                     
                             
                            