ทราบได้อย่างไรว่าสัตว์เลี้ยงของท่านป่วยเป็นโรคหัวใจการสังเกตอาการป่วยโรคหัวใจในสุนัขและแมวจะแตกต่างกันหรือไม่

สุนัขก็ยังต้องแบ่งออกเป็นสุนัขขนาดเล็ก และสุนัขขนาดใหญ่ สุนัขขนาดเล็กได้แก่ ปอมเมอเรเนียน ชิวาวา ยอร์คเชียร์เทอเรีย ชิสุห์ พุดเดิ้ล เป็นต้น การสังเกตอาการ ควรดูตั้งแต่รับลูกสัตว์เข้ามาเลี้ยง ซึ่งอาการที่พบได้แก่ หายใจลำบาก เยื่อเมือกซีด เหนื่อยง่าย ไม่เจริญเติบโตตามปกติ ถ้าอาการแบบนี้มีโอกาสที่จะเป็นโรคหัวใจ ชนิดเป็นแต่กำเนิดได้ ควรเข้ารับการวินิจฉัยต่อ แต่ถ้าผ่านระยะ 1-2 ปีมาแล้วไม่แสดงออกอาการใดๆ ระยะต่อมาที่ต้องสังเกตอาการคือระยะเริ่มเข้าวัยสูงอายุ ตั้งแต่ 7-8 ขวบขึ้นไปซึ่งระยะนี้ในสุนัขพันธุ์เล็กจะพบโรคหัวใจชนิดลิ้นหัวใจเสื่อมได้ถึง 20% ของสัตว์สูงอายุ โดยจะแสดงอาการคล้ายกับโรคหัวใจในลูกสัตว์ คือ หายใจลำบาก เหนื่อยงาย ไอ น้ำหนักลด บางรายมีภาวะท้องมาน ซึ่งควรจะเข้ารับการตรวจวินิจฉัย ส่วนในสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ เช่น โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ลาบราดอร์ ดัลเมเชียน การสังเกตอาการจะคล้ายกันกับในสุนัขสายพันธุ์เล็ก คือ ดูอาการตั้งแต่แรกเกิดถึง 2 ขวบ และอีกระยะคือ 6-7 ขวบ ซึ่งเป็นวัยสูงอายุ แต่ก็มีโรคหัวใจอีกชนิดหนึ่งที่แตกต่างจากโรคหัวใจที่เป็นแต่กำเนิด และโรคหัวใจที่เกิดจากภาวะเสื่อม โรคหัวใจชนิดนี้ คือ โรคหัวใจที่เกิดจากพยาธิหนอนหัวใจซึ่งได้รับเชื้อโดยมียุงเป็นพาหะ สุนัขกลุ่มนี้จะแสดงอาการป่วยระยะแรก โดยมีอาการไอเป็นหลัก ระยะท้ายจะผอมลง และเกิดภาวะท้องมาน และมักพบการติดโรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัขที่เลี้ยงไว้นอกบ้าน ส่วนในแมวอาการที่พบจะพบอาการหายใจลำบาก เป็นอาการเด่น ไม่ค่อยพบว่ามีอาการไอเหมือนในสุนัข และที่น่าห่วงก็คือ ในแมวที่เป็นโรคหัวใจมักพบอาการแมวเจ็บขาแบบเฉียบพลัน ซึ่งนั่นคือ โรคหลอดเลือดอุดตัน ที่เกิดตามหลังโรคหัวใจ อย่างไรก็ตาม คำแนะนำก็คือเพื่อป้องกันปัญหาโรคหัวใจลุกลาม และเป็นรุนแรง ควรตรวจสอบอาการต่างๆที่กล่าวมาแล้วนี้ และรีบปรึกษาสัตวแพทย์ใกล้บ้านท่านทันที การรู้ล่วงหน้า จะทำให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของท่านให้ชะลอการแสดงอาการป่วยด้วยโรคหัวใจได้




ให้สุขภาพหัวใจ ได้รับการดูแล..

ด้วยรัก และห่วงใยจาก
ศูนย์โรคหัวใจสัตว์เลี้ยง โรงพยาบาลสัตว์นนทรี
โทร.02-955-7845 หรือ 02-955-7846
www.facebook.com/NontriPetHospital