อาการหอบของสุนัขสำคัญอย่างไรและทำไมต้อง….หอบ
สุนัข “หอบ” อาจจะเป็นเรื่องปกติที่เราพบเห็นอยู่เป็นประจำ เพราะอาการหอบเป็นการระบายความร้อน
ออกจากร่างกาย เนื่องจากผิวหนังสุนัขไม่มีรูขุมขนไว้ระบายความร้อนที่ออกมาทางเหงื่อเหมือนคน
(สุนัขมีเหงื่อออกได้เฉพาะบริเวณง่ามเท้าเท่านั้น) อาการหอบที่พบโดยปกติเป็นการหายใจแบบเร็วและตื้น
มีน้ำไหลจากลิ้น ปาก และทางเดินหายใจส่วนต้น การระเหยของน้ำนี้จะช่วยลดอุณหภูมิ คลายความร้อน
ออกจากร่างกาย
อัตราการหายใจปกติของสุนัข คือ 30-40 ครั้ง/ นาที แต่เมื่อสุนัขมีอาการหอบอัตราการหายใจ
จะสามารถเพิ่มขึ้นได้เป็น 10 เท่าหรือ 300-400 ครั้ง / นาที
ดังนั้น การหอบของสุนัขจึงแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ การหอบแบบปกติ และการหอบแบบผิดปกติ
อาการหอบแบบปกติ จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายสุนัขมีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการตอบสนองทาง
ร่างกายตามธรรมชาติของสุนัข
อาการหอบแบบผิดปกติ มีได้หลายสาเหตุ ซึ่งอาจจะเกิดจากปัญหาทางกายภาพหรือปัญหาทาง
อารมณ์ เจ้าของสุนัขต้องหมั่นสังเกตอาการหอบปกติของสุนัขและเปรียบเทียบกับอาการหอบที่เกิดขึ้น
ว่าแตกต่างไปจากปกติหรือไม่ เช่น เกิดอาการหอบในช่วงที่อากาศไม่ร้อน เสียงหายใจดังและรุนแรงกว่าเดิม
สุนัขมีอาการพยายามในการหายใจมากขึ้น
สาเหตุของอาการหอบที่ผิดปกติ มีดังนี้
1.ภาวะความร้อนสูง Heat Stroke
ในสภาวะแวดล้อมที่อากาศร้อน อุณหภูมิสูงขึ้น สุนัขเริ่มมีอาการหายใจแรงขึ้น และมีอาการอื่นร่วม
เช่น กินน้ำมาก ตัวร้อน สีลิ้นและเหงือกเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม อัตราการเต้นของหัวใจและชีพจรเร็วขึ้น
ถ้าอุณหภูมิในร่างกายสูงเกิน 106 องศาฟาเรนไฮต์ เซลส์ในร่างกายจะเริ่มเสียหายและตาย เกิดภาวะ
สมองบวม เกิดอาการชัก เกิดภาวะขาดเลือดไปเลี้ยงระบบทางเดินอาหาร เกิดแผลหลุมตามมาได้
หากไม่ได้ดื่มน้ำหรือลดอุณหภูมิในร่างการลงให้ทัน ภาวะขาดน้ำทำให้ไตเสียหายอย่างถาวร
ซึ่งอาการทั้งหมดเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที
2.เกิดจากสายพันธุ์สุนัข
สุนัขสายพันธุ์หน้าสั้น เช่น ปั๊ก บอสตันเทอร์เรีย บอคเซอร์ บลูด๊อก และเฟรนซ์บลูด๊อก สายพันธุ์เหล่านี้มี
โอกาสที่จะเกิดอาการหอบมากกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ เพราะโดยโครงสร้างของร่างกาย จะมีระบบ
ทางเดินหายใจส่วนต้นที่ไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ดีเท่าที่ควร จึงมีแนวโน้มจะเกิด
ภาวะ Heat Stroke ได้ง่าย ดังนั้น สิ่งที่เจ้าของสุนัขต้องพึงระวังเมื่อเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์หน้าสั้นเหล่านี้
คือ เมื่อต้องพาพวกเขาเดินทางไม่ว่าจะเป็นทางเครื่องบินหรือรถยนต์ ต้องหมั่นสังเกตอาการหายใจ
หากผิดปกติต้องรีบแก้ไขอย่างทันท่วงที
3.เกิดจากการเจ็บปวด
เมื่อสุนัขรู้สึกตัวว่าไม่สบาย หรือรู้สึกเจ็บปวด สุนัขจะแสดงอาการให้เจ้าของทราบด้วยอาการหอบ เช่นในเวลา
กลางคืนซึ่งเป็นเวลานอนปกติ หากสุนัขหายใจแรงมีอาการหอบ แสดงว่ามีภาวการณ์เจ็บปวดหรือไม่สบายเกิด
ขึ้นกับน้องหมาของเรา
4.โรคหัวใจหรือปอด
สุนัขที่เป็นโรคหัวใจ หัวใจจะสูบฉีดโลหิตไปยังเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆได้ไม่ดี ทำให้ปริมาณออกซิเจนลดลง
สุนัขต้องหายใจถี่ขึ้น อีกทั้งความสามารถในการบีบเลือดของหัวใจลดลงจึงมีผลต่อความดันในหลอดเลือด
ที่กลับเข้าสู่หัวใจ จึงเกิดภาวะน้ำคั่งในปอด ทำให้ปอดรับออกซิเจนได้ไม่เต็มที่ สุนัขจึงมีอาการหอบ
สุนัขที่เป็นโรคหัวใจบางตัวอาจมีภาวะหายใจลำบาก หอบ เกิดจากมีน้ำสะสมในช่องอกและช่องท้อง
นอกจากนี้ สุนัขที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม นอกจากจะมีอาการหอบแล้วยังมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่นความสามารถในการออกำลังกายลดลง เหนื่อยง่าย อัตราการหายใจเร็วขึ้น มีอาการไอ สุนัขบางตัวอาจพบอาการแบบเฉียบพลัน เช่น อ่อนแรงและเป็นลม
5.โรคคุชชิ่ง
โรคที่เกิดจากต่อมหมวกไตหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลที่มากกว่าปกติ มีผลทำให้เกิดอาการหอบ ซึ่งโรคคุชชิ่งนี้ เราจะพบอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น กินน้ำมากผิดปกติ ปัสสาวะมาก น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น (เนื่องจากเกิดการเผาผลาญที่ลดลง) ผิวหนังเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีเทาดำ และขนร่วง เป็นต้น
6.ภาวะโลหิตจาง
เมื่อสุนัขโลหิตจาง จำนวนเม็ดเลือดแดงจะลดลง ทำให้การขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนต่างๆของร่างกาย
ลดลง จะเกิดอาการอ่อนแรง ซึม ไม่อยากออกกำลังกาย สีเยื่อเมือกซีด กินอาหารน้อยลง อัตราการเต้นของหัวใจ
เพิ่มขึ้น หายใจถี่ขึ้น อาจถึงขึ้นเป็นลมหมดสติ และในกรณีที่สุนัขมีภาวะเสียเลือดภายในอวัยวะทางเดินอาหารจะพบอุจจาระเป็นสีดำ
7.อัมพาตกล่องเสียง
เป็นความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูกอ่อนที่มีหน้าที่ในการปิดเปิดกล่องเสียง ของตัวสุนัข เมื่อมีความผิดปกติ
เช่นนี้เกิดขึ้น การเปิด ปิดผิดเพี้ยนไม่เป็นจังหวะร่วมกับการหายใจ อากาศที่ผ่านเข้าออกถูกจำกัดและเกิดเสียงดัง
เวลาหายใจจึงเกิดอาการหอบขึ้น
8.ภาวะความเครียดและความกังวล
สุนัขที่มีความเครียดหรือกังวลจากสิ่งแวดล้อมและปัจจัยต่างๆรอบตัว เช่น การกลัวเสียง เรียกอาการนี้ว่า Behavioral Panting สุนัขจะแสดงพฤติกรรมว่าไม่ชอบ ไม่สบายตัว เช่น ตัวย่อๆร้อง หอน แลบลิ้นบ่อยๆ ตัวสั่น หลบซ่อนตัว ซึ่งถ้ามีภาวะเครียดมาก ๆ อาจจะถึงอุจจาระ ปัสสาวะราดก็ได้
อาการหอบของสุนัขสำคัญอย่างไรและทำไมต้อง….หอบ สาเหตุของการหอบ 8 ข้อข้างต้น คงพอจะอธิบาย
ให้ท่านเจ้าของสุนัขได้เข้าใจเบื้องต้นถึงโรคต่างๆ ที่มากับอาการหอบ ซึ่งบางโรคสามารถรักษาให้หายขาดได้
และสามารถรักษาชีวิตของสัตว์เลี้ยงของคุณได้ทันท่วงที หากพามาพบสัตวแพทย์อย่างทันเวลา
สพ.ญ.อรญา ประพันธ์พจน์
แผนกอายุรกรรม, แผนกศัลยกรรม, แผนกโรคหัวใจ
โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน