
น้องโมจิ แมวเพศเมีย อายุประมาณ 1 ปี มาหาหมอด้วยอาการมีแผลประกอบกับขนร่วงที่ หน้า จมูก ขาหน้าขวา และโคนหางด้านใน น้องโมจิจะเลีย หรือ เกาคันเป็นบางครั้ง เป็นมานานแล้ว ไม่หายขาด โดยเฉพาะหลังจากปล่อยไปเดินเล่นนอกบ้าน เมื่อกลับมาจะแผลจะอาการแย่ลงมาก
เมื่อตรวจผิวหนังของน้องโมจิ ด้วยการเก็บผิวหนังชั้นนอกของน้องโมจิมาดู และตรวจหาเชื้อรา พบว่า " มีการติดเชื้อร่วมกันระหว่างเชื้อรา และ เชื้อแบคทีเรีย" จากนั้น ได้ทำการตรวจสุขภาพน้องโมจิอย่างละเอียด โดย
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
- ตรวจการทำงานของตับและไต
- ตรวจหาโรคไวรัสในแมว
ผลปรากฏว่าน้องโมจิมีสุขภาพทั่วไปแข็งแรงดี และไม่พบโรคไวรัสในแมวจากการใช้ชุดคตรวจโรคไวรัส
คุณหมอพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะ + ยาต้านเชื้อรา + ยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน พร้อมกับทำความสะอาดแผลและพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อที่บริเวณแผลทุกวัน
เนื่องจากคุณแม่น้องโมจิไม่สะดวกในการดูแล จึงฝากน้องโมจิไว้กับทางโรงพยาบาล โดยให้อยู่ในห้องทำงานของคุณหมอเอง ซึ่งคุณหมอได้ปล่อยให้น้องเดินเล่นได้ไม่ขังกรง เนื่องจากความเครียด จะมีผลทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายตก และ การติดเชื้อจะหายช้าขึ้นไปอีก
หลังจากผ่านไป 1 อาทิตย์ แผลของน้องโมจิดีขึ้นมาก ร่าเริง ทานอาหารเก่ง
ชอบนอนบนเก้าอี้ทำงาน หรือ ขึ้นมานั่งเล่นบนตักคุณหมอ แต่น้องโมจิก็ยังต้องทานยา และทำความสะอาดแผลต่อเนื่องต่อไป จนหายขาด

อาการน้องโมจิ เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ
เชื้อรา มักเป็น 'เชื้อฉวยโอกาส' และจะก่อโรคเมื่อร่างกายหรือผิวหนังอ่อนแอ เมื่อเป็นโรคเชื้อราแล้ว ต้องใช้เวลาในการรักษา'นาน' เพราะฉะนั้น การป้องกันโดยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ทำวัคซีนป้องกันโรคให้ครบ ลดความเครียด ถ้าพบเจอแผลภายนอกให้รีบรักษา ทั้งหมดนี้ก็จะทำให้เชื้อราไม่มาเยือนสัตว์เลี้ยงของเรา
สพ.ญ. วิลาสินี ภุมรินทร์
โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท

คุณหมอกับน้องโมจิ