เรื่องเล่าจากฮานอย “ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย อยากรู้จังเลยว่า ชีโร่ เป็นอะไรกันน้า”
ประวัติและข้อมูลสัตว์ป่วย
ประวัติสัตว์ป่วย แมว ชื่อ ชีโร่ เพศ เมีย อายุประมาณ 3 ปี ต้องการมาอาบน้ำและตัดขน แมวมีอาการเจ็บตาด้านซ้าย มีน้ำมูกเขียวข้น จาม และ เหมือนสะบัดหูตลอดเวลา เจ้าของไม่ได้สังเกตุอาการ ไม่ทราบว่าเป็นมาตั้งแต่เมื่อใด ส่วนวัคซีนทำครบถ้วน
การตรวจร่างกายและการวินิจฉัย
หลังการตรวจร่างกายพบว่าเสียงปอดชื้น ผิดปกติ มีจามและมีน้ำมูกเขียวข้น ตาด้านซ้ายหลังการย้อมสีไม่พบแผลหลุมแต่อย่างใด ลักษณะเยื่อตาขาวอักเสบ ทำการตรวจเลือดพบภาวะเม็ดเลือดขาวสูงกว่าปกติ สงสัยการอักเสบติดเชื้อ เนื่องมาจากหวัดแมว เปิดช่องปากดูไม่พบมีแผลในช่องปากหรือเงือกอักเสบแต่อย่างใด ส่วนอาการสะบัดหู เก็บตัวอย่างจากช่องหูไปตรวจและย้อมสี ส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ พบว่ามียีสต์อยู่ในช่องหู ทั้งสองข้าง ทำให้ช่องหูอักเสบ และมีอาการคัน สะบัดหัวบ่อย ๆ
การรักษา
หวัดแมวเกิดจากเชื้อไวรัสหวัดแมวหลากหลายชนิด การรักษาจะให้การรักษาตามอาการ ไม่มียารักษาฆ่าเชื้อไวรัสโดยตรง เจ้าชิโร่พบน้ำมูกมีสีเหลืองข้น บ่งบอกถึงมีภาวะการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน การรักษาให้จ่ายยาปฏิชีวนะ เพื่อคุมการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ยาลดน้ำมูกช่วยทำให้น้ำมูกที่ข้นละลาย และกลุ่มยาลดอักเสบเพื่อลดการอักเสบที่ตลอดทางเดินหายใจ มีการนัดดมยาทุกวันเพื่อช่วยให้ละอองฝอยของยาดมชะล้างและทำให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้น มีการจ่ายยาปฎิชีวนะหยอดตาเฉพาะที่ เพื่อคุมการติดเชื้อที่ดวงตา
หลังการรักษากินยาและ ดมยา 3 วันพบว่าแมวมีอาการดีขึ้น ไม่พบน้ำมูกสีเหลืองข้น การจามลดลง การหายใจดีขึ้น และตาที่เจ็บดูดีขึ้นมาก การทานอาหารดูมีความอยากอาหารมากขึ้น ทานได้เยอะขึ้น ให้เจ้าของป้อนยาต่อที่บ้านอีก 1 สัปดาห์เพื่อเคลียร์การติดเชื้อ
ปัญหาเรื่องหูอักเสบ (otitis)ถ้าหูสกปรกมากให้เจ้าของเช็ดหูด้วยน้ำยาเช็ดหูก่อน และหยอดยาหยอดหูวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น นัดตรวจอาการซ้ำทุก 1-2 สัปดาห์
เกร็ดความรู้
หวัดแมวเกิดจากเชื้อไวรัส Feline Calicivirus (FCV) และ Feline Herpesvirus (FHV) อาการที่สามารถสังเกตุเห็นได้ คือ มีน้ำมูก ขี้ตาเฉาะ ไอ จาม เบื่ออาหาร เจ็บตา มีแผลที่กระจกตา มีแผลในช่องปากหรือลิ้น มีไข้ ซึม โรคนี้สามารถลดความรุนแรงของโรคได้โดยการฉีดวัคซีนป้องกัน และกระตุ้นวัคซีนเป็นประจำทุก ๆ ปี โรคนี้การแพร่กระจายจะแพร่ไปตามอากาศ และติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งพบว่าถ้าโรคนี้เกิดกับลูกแมวหรือแมวที่ไม่ได้ทำวัคซีนจะมีความรุนแรงถึงอาจทำให้เสียชีวิตได้ และแมวที่เป็นโรคควรแยกเลี้ยงจากแมวตัวอื่น ๆ
สัตวแพทย์ผู้ทำการรักษา
สพ.ญ. ชนินันท์ สุทธิผล
01-7782/2554
28 พฤษภาคม 2559