ภาวะคลอดยาก : มอลทีส
ประวัติความเป็นมา
น้องสโนว์ สุนัขพันธุ์มอลทีส ได้ผสมกับสุนัขพันธุ์ชิวาว่า และตั้งท้องได้ 2 เดือนแล้ว ท้องนี้เป็นท้องแรก ไม่มีประวัติเคยฉีดยาคุม และ ยังไม่เคยตรวจการตั้งท้องมาก่อน เมื่อตอนที่พามาถึงโรงพยาบาลเจ้าของเล่าว่า มีอาการเบ่งคลอด และพบถุงน้ำคร่ำไหลออกมาจากอวัยวะเพศเมื่อ 45 นาทีที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีลูกออกมา
การวินิจฉัย
เมื่อหมอตรวจดู ได้พบว่า น้องสโนว์มีช่องท้องที่ขยายใหญ่ เมื่อตรวจดูเต้านม พบว่า ไม่มีน้ำนมไหลออกมา เมื่อตรวจที่อวัยวะเพศ พบถุงน้ำคร่ำ 2 ถุง ที่ยังไม่แตกออก ลองล้วง และ ดึงถุงน้ำคร่ำดู พบว่าไม่สามารถดึงออกได้ จึงได้ทำการเอ็กซ์เรย์ และพบ ลูกสุนัขจำนวน 3 ตัว ที่ขนาดศีรษะมีขนาดใหญ่ใกล้เคียง เกือบพอดีกับช่องเชิงกรานของแม่สุนัข
เมื่ออัลตราซาวน์ดู พบว่าหัวใจของลูกสุนัข ยังเต้นดี แข็งแรง จึงแจ้งเจ้าของว่า น้องสโนว์มีโอกาสที่จะคลอดเองได้บางตัว แต่หากรอเวลาให้สุนัขคลอดเอง อาจทำให้ลูกอ่อนแอลง หรือคลอดไม่ออกได้
การรักษา
สัตวแพทย์และเจ้าของจึงตัดสินใจร่วมกันว่า จะผ่าตัดเพื่อช่วยคลอด แต่ยังไม่ทำหมัน
การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีน้องสโนว์ฟื้นจากยาสลบอย่างปลอดภัย และลูกน้อยทั้ง 3 ตัวรอดชีวิตทั้งหมด
การดูแลหลังการรักษา
เนื่องจากหลังคลอดคุณแม่ได้รับยาสลบ ยาลดปวด รวมถึงยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาแผลผ่าตัด จึงแจ้งงดให้นมลูกสุนัข และแจ้งเจ้าของให้ซื้อนมสำหรับลูกสุนัขแทน รวมถึงกกไฟให้ทั้งแม่และลูกสุนัข เพื่อให้ความอบอุ่น
จากนั้นได้นัดหมายเพิ่มเติม 3 วันหลังผ่าตัดตรวจแผลผ่าตัด และ นัด 7 วันเพื่อตัดไหม หากแผลแห้งดี
Tips เล็ก ๆ เคล็ดไม่ลับ “มารับมือกับภาวะคลอดยาก รู้ไว้ช่วยได้ทั้งแม่และลูก"
1. สุนัขจะตั้งท้องใช้เวลาประมาณ 63 +/- 2วัน นับจากวันตกไข่โดยประมาณ แต่หากจะนับจากวันผสมระยะประมาณ 58-70 วัน สามารถพาสุนัขมาตรวจการตั้งครรภ์อย่างง่าย ไม่เจ็บปวด โดยการอัลตร้าซาวน์ อย่างเร็วที่สุดที่อายุครรภ์ 20 วันจะเห็นถุงน้ำและตัวอ่อนเล็ก ๆ ในมดลูก หรือถ้าจะยืนยันว่ามีลูก ควรอัลตร้าซาวน์ที่อายุครรภ์ 28 วัน จะเริ่มเห็นหัวใจดวงน้อยของลูกเต้นในมดลูกแม่สุนัข
"สุนัขจะตั้งท้องใช้เวลาประมาณ 63 +/- 2วัน"
2. ประเมินภาวะคลอดยาก เจ้าของสามารถพาสุนัขมาเอ็กซเรย์ช่องท้องตั้งแต่ที่อายุ 45 วันจะเริ่มเห็นโครงกระดูกลูกสุนัข แต่หากจะประเมินภาวะคลอดยาก ควรรอจนอายุครรภ์ประมาณ 55 วันเป็นต้นไป เพื่อให้ขนาดลูกสุนัขโตอย่างเต็มที่ โดยสัตวแพทย์จะประเมินด้วยการวัดขนาดศีรษะของลูกเทียบกับเชิงกรานของแม่สุนัข หากพบว่ามีแนวโน้มคลอดยากหรือขนาดไม่สมส่วน สัตวแพทย์จะแนะนำให้นัดวันครบกำหนดคลอดเพื่อผ่าตัดช่วยลูกสุนัข
"ประเมินภาวะคลอดยาก ควรรอจนอายุครรภ์ประมาณ 55 วันเป็นต้นไป"
3. เครื่องมือทางการแพทย์ที่ช่วยในการวินิจฉัยได้ คือ เครื่องอัลตร้าซาวน์ช่วยวินิจฉัยว่าลูกสุนัขยังมีชีวิตหรือไม่ โดยการดูการเต้นของหัวใจ ดูความแข็งแรงของลูกสุนัข สภาพมดลูกของแม่สุนัข รวมถึงพยากรณ์วันคลอด วันตั้งท้องของแม่ แต่จะบอกจำนวนลูกสุนัขได้คล่าว ๆ ส่วนเครื่องเอ็กซเรย์ จะช่วยบอกจำนวนลูกสุนัขได้แม่นยำกว่าอัลตร้าซาวน์ แต่จะไม่สามารถบอกได้ว่าลูกสุนัขยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ยกเว้นแต่ลูกที่ตายมานาน แล้วมีแก๊สสะสมในมดลูก การวินิจฉัยอย่างอื่น ๆ คือการตรวจเลือดเพื่อดูระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตกไข่ ตั้งครรภ์ และวันคลอดใช้ประกอบกันได้
" เครื่องอัลตร้าซาวน์ช่วยวินิจฉัยว่าลูกสุนัขยังมีชีวิตหรือไม่ ส่วนเครื่องเอ็กซเรย์ จะช่วยบอกจำนวนลูกสุนัขได้แม่นยำ"
4. เมื่อแม่สุนัขใกล้คลอด จะมีการแสดงอาการ 3 ระยะ โดยสังเกตได้ง่าย ๆ ดังนี้
ระยะหาที่คลอด
สุนัขจะทานอาหารลดลง เริ่มเก็บตัว หรืออยู่ที่มืด เจ้าของสามารถช่วยเตรียมรังคลอดในที่สงบให้แม่สุนัขได้ และพยายามไม่ทำให้แม่สุนัขเครียด หรือรบกวนสุนัข สุนัขจะแสดงอาการนี้ประมาณ 12-48 ชั่วโมงก่อนคลอด
ระยะเบ่งคลอด
ให้เจ้าของสังเกตน้ำที่ไหลออกจากอวัยวะเพศ หากเริ่มมีน้ำคร่ำแตกออกมา แม่สุนัขจะเบ่งคลอดลูกตัวแรกออกมาภายใน 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง หากเกินระยะเวลา 2-4 ชั่วโมง มีแนวโน้มว่าแม่สุนัขกำลังประสบปัญหาการคลอด ระยะห่างการคลอดของลูกสุนัขตัวถัดไปปกติจะไม่เกินตัวละ 20-40 นาที หากเกิน 1 ชั่วโมง แม่สุนัขอาจมีปัญหาคลอดยาก ซึ่งแนะนำว่าให้รีบพาแม่สุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุการคลอดยาก เพื่อดำเนินการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป
ระยะขับรก
เป็นระยะที่มีการขับรกและน้ำคล่ำที่ค้างในมดลูกหลังการคลอด โดยปกติแม่สุนัขอาจเลียหรือรับประทานเข้าไป พร้อมกับการเลียตัวทำความสะอาดลูกสุนัข
"ใกล้คลอด 3 ระยะ 1.ระยะหาที่คลอด , 2.ระยะเบ่งคลอด , 3.ระยะขับรก"
โดยสรุปแล้ว ภาวะคลอดยากมักพบในแม่สุนัขที่ตัวเล็ก ผสมกับพ่อสุนัขขนาดใหญ่ แต่สามเคสที่ยกตัวอย่างข้างต้นมาเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ชิสุ ชิวาว่า มอลทีส เป็นต้น ส่วนระยะการคลอดที่เป็นระยะวิกฤติคือ ระยะเบ่งคลอด เป็นระยะที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แต่เพื่อการป้องกันการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ แนะนำให้พาแม่สุนัขไปตรวจสุขภาพก่อนการคลอดตามที่กล่าวมาข้างต้นได้ที่ โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท ทุกสาขา โดยทีมสัตวแพทย์ผู้เชียวชาญ และเครื่องมือที่พร้อมเพียง
สพญ.สุพัตรา จันทร์โฉม
โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท ประเทศไทย